[DOC] เอกสารติว สำนักเกรียงไกร (ภาษาไทย + สังคม)

เอกสารติว สำนักเกรียงไกร (ภาษาไทย + สังคม)

RATING : 4.5/5

REVIEW : เป็นชีทสรุปเนื้อหาทั้งหมดของภาษาไทยและสังคมครับ พี่คิดว่าเป็นสรุปที่ครบถ้วนที่สุด เลยครับ เอกสารก็จัดได้น่าอ่านดี แม้ว่าจะมีข้อผิดพลาดบ้างในเอกสาร แต่โดยรวมถือว่าโอเคครับ คุ้มค่าสำหรับการพิมพ์ไปอ่าน ท้ายเอกสารยังมีข้อสอบให้ลองทำอีก 100 ข้อ + เฉลย ด้วยครับ

หมายเหตุ : วิชาภาษาไทย มีข้อผิดพลาดเล็กน้อยในชีท คือ อำ ไอ ใอ เอา ต้องเป็นสระเกิน นะครับ

DOWNLOAD : ภาษาไทย | สังคม

[TIP] รู้จักข้อสอบ GAT (พาร์ทเชื่อมโยง)

รู้จักข้อสอบ GAT #1

พี่เคยพูดถึงลักษณะของข้อสอบ GAT ไปแล้วนะครับ คราวนี้พี่ก็จะเอาข้อสอบ GAT มาให้น้องๆได้เห็นได้ชมกันว่า หน้าตามันจะเป็นยังไง โดยเริ่มจากพาร์ทเชื่อมโยงก่อนนะครับ ซึ่งจะเป็นข้อสอบฉบับแรกที่เราจะต้องทำ มีเวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที กับ 2 บทความ

นี่คือหน้าปกข้อสอบและกระดาษคำตอบครับ

สำหรับพาร์ทเชื่อมโยงนะครับ เขาจะให้ตัวอย่างบทความมา 1 บทความ เพื่อเป็นแนวทางสำหรับผู้ที่เพิ่งทำครั้งแรก แต่สำหรับคนที่ทำเป็นแล้วก็อาจจะไม่ต้องดูตรงส่วนนั้นก็ได้ครับ แต่ละบทควาที่เขาให้มาจะมีองค์ประกอบดังต่อไปนี้ครับ

ส่วนที่ 1 คือคำสั่งครับ เป็นสิ่งที่ต้องอ่านให้เข้าใจนะครับ แต่โดยทั่วไปแล้วคำสั่งจะเหมือนเดิม ตรงนี้พี่จะขอสรุปง่ายๆนะครับ ที่เราต้องทำก็คือหาความเชื่อมโยงระหว่างข้อความที่เขากำหนดใ้ห้ ซึ่งน้องที่เคยเห็นครั้งแรก อาจจะตกใจ ข้อสอบบ้าอะไรวะ ไม่เห็นเคยเจอ ตรงนี้น้องต้องพยายามฝึกฝนครับ ซึ่งเดี๋ยวพี่จะแนะนำว่าน้องๆจะเริ่มฝึกจากตรงไหน

ส่วนที่ 2 คือบทความครับ หน้าที่ของเราก็อยู่ตรงบทความนี้นั่นแหละ ก็คือเราต้องหาข้อความที่เขากำหนดให้ว่าอยู่ตรงไหนบ้าง จากนั้นก็ดูว่ามันเชื่อมโยงกันอย่างไร

ส่วนที่ 3 คือ ตารางที่บอกข้อความที่กำหนด และที่ว่างในการร่างคำตอบครับ

ส่วนที่ 4 คือ ที่ว่างสำหรับวาดแผนผังความเชื่อมโยง ซึ่งจะอยู่ที่หน้าสุดท้ายของตัวข้อสอบ

นี่คือส่วนประกอบทั้งหมดของข้อสอบ GAT พาร์ทเชื่อมโยง ใน 1 บทความครับ จะมีเพียงเท่านี้ ส่วนวิธีการทำข้อสอบ ว่าทำอะไรยังไง พี่จะกล่าวในภายหลังนะครับ แต่ว่าพี่ขอแนะนำ ติวมาม่าออนไลน์ในส่วนของวิชา GAT จะสามารถช่วยน้องได้ครับ (เพราะพี่ก็มารู้เรื่องด้วยสิ่งนี้นี่แหละ) ไม่จำเป็นต้องไปลงเรียนให้เสียเงินนะครับน้อง สิ่งที่จะทำให้น้องๆทำข้อสอบส่วนนี้ได้ คือการทำจนเชี่ยวชาญและจับความเชื่อมโยงได้อย่างรวดเร็ว คะแนน 150 คะแนนก็จะไม่หายไปไหนแล้วล่ะครับ

หมายเหตุ : ติวมาม่าออนไลน์สมัครได้ที่นี่ครับ คลิก

DOWNLOAD ข้อสอบ GAT : ครั้งที่1/2552 | ครั้งที่2/2552 | ครั้งที่ 3/2552 | ครั้งที่ 1/2553 | ครั้งที่ 2/2553 | ครั้งที่ 3/2553

[EXP] มีเป้าหมาย มีชัยไปกว่าครึ่ง !

น้องๆมีเป้าหมายของตัวเองกันหรือยังครับ ?

หลายคนอาจจะยัง แต่หลายคนอาจจะมีอยู่แล้วภายในใจ ตรงนี้พี่ขอบอกได้เลยว่า คนที่มีเป้าหมายในตัวเองว่า ตัวเองต้องการจะเรียนคณะอะไร คือคนที่เหมือนก้าวนำหน้าเพื่อนไปหนึ่งก้าวครับ

ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ?

คนที่มีเป้าหมาย ย่อมที่จะต้องหาข้อมูลและเตรียมตัวหรือเตรียมความพร้อมสำหรับคณะนั้นโดยเฉพาะ ทำให้มีความพร้อมกว่าการเตรียมตัวแบบเผื่อไปทั้งหมด หรืออ่านไปทั้งหมด ตรงนี้ขอยกตัวอย่างในกรณีของพี่เองครับ พี่มีความสนใจในสาขา มัลติมีเดียของบางมด มาตั้งแต่ อยู่ ม.5 เทอม 2 ครับ ตั้งแต่ตอนนั้นพี่ก็หาข้อมูลเกี่ยวกับคณะนี้อยู่เรื่อยๆ ทำให้รู้ว่ามีการรับตรง พี่จึงตั้งใจที่จะรับตรงให้ได้ ซึ่งตรงนี้พี่ก็ได้ข้อมูลมาอีกว่า การสอบตรงของคณะนี้ สอบเพียงแค่ 3 อย่างเท่านั้น ก็คือ ฟิสิกส์ คอมพิวเตอร์ และศิลปะ พอรู้แบบนี้แล้วก็สบายสิครับ เพราะเราต้องอ่านแค่เพียง 3 วิชา เวลาที่เหลือก็นำไปทำพอร์ตโฟลิโอ หรือแฟ้มสะสมผลงาน ในขณะที่เพื่อนพี่ ที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองอยากเรียนอะำไร ก็ต้องอ่านหมดไปทุกวิชาอย่างไม่มีจุดหมาย ประโยชน์ถัดมาคือ รู้เวลาที่จะต้องใช้ในการเตรียมตัวสอบ โดยอาศัยกำหนดการเดิมของปีที่แล้วว่า เขาจะสอบประมาณเดือนไหน เราก็จะกะเวลาอ่านหนังสือของเราได้ครับ จุดนั้นเองที่ทำให้การอ่านของเรามีประสิทธิภาพ และปัญหาการอ่านไม่ทัน จะไม่เกิดขึ้น

การตั้งเป้าหมายให้ตัวเอง นอกจากจะมีประโยชน์ในการเตรียมตัวสอบแล้ว ยังเป็นสิ่งที่ทำให้น้องๆจะมีแรงผลักดันหรือแรงสู้ให้ไปสู่คณะนั้นให้ได้ สิ่งนั้นที่จะทำให้น้องๆรู้สึก ฮึด หรือสู้ต่อไป เพื่ออนาคตของน้องๆ ตรงนี้แหละที่ทำให้น้องมีความมั่นใจกว่าเพื่อนๆคนอื่นๆที่ไม่มีเป้าหมายแน่นอน

เราจะรู้เป้าหมายของเราได้อย่างไร ?

ง่ายๆคือ การค้นหาตัวเองครับ น้องๆลองใช้เวลาว่างๆถามตัวเองว่า เออ เนี่ย เราอยากจะทำงานอะไรในอนาคต เราชอบเรียนอะไร อะไรที่เราเรียนแล้วมีความสุข หรือทำงานได้อย่างมีความสุข พี่ไม่อยากให้น้องๆคิดแค่เพียงว่า เออ ต้องแพทย์นะ ต้องทันตะนะ จะได้ไม่ตกงาน จะได้เงินเยอะๆ พี่ว่ามันยังเป็นความคิดที่ผิด เพราะสมมติว่าน้องๆได้เข้าไปเรียนแล้วเกิดไม่ชอบมัน น้องๆก็จะเรียนได้ลำบาก และอาจจะเรียนไม่ไหวได้ครับ มันจะทำให้น้องๆเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ แล้วก็พี่อยากบอกว่า ยิ่งรู้ตัวเองเร็วเท่าไหร่ยิ่งดีครับ เพราะจะมีเวลาเตรียมตัวพร้อมกว่าคนอื่นๆ

เพิ่มเติม การค้นหาตัวเองสามารถทำได้โดยการ ไปเข้าค่ายที่คณะต่างๆจัดขึ้นครับ ดช่น ค่ายอยากเป็นหมอ อะไรพวกนี้ จะให้เรารู้ว่า เราชอบในคณะนี้จริงๆรึเปล่าครับ

สุดท้ายพี่ขอเป็นกำลังใจให้น้องๆทุกคนครับ 😀

[EXP] วิธีการเข้าสู่มหาวิทยาลัย

วิธีการเข้าสู่มหาวิทยาลัย

วันนี้ พี่ก็จะมาอธิบายว่า เราจะมีวิธีการเข้ามหาวิทยาลัยแบบไหนบ้าง โดยหลักๆแล้ว เราจะแบ่งออกเป็น 2 ระบบใหญ่ๆ นะครับ คือ ระบบ Admission กลาง กับ มหาวิทยาลัยเปิดรับเอง หรือที่เรียกง่ายๆว่า รับตรง ครับ

ระบบ Admission กลาง

เป็นระบบที่มหาวิทยาลัยทั้งประเทศใช้รับนักศึกษาครับ ซึ่งจะต้องใช้คะแนนดังต่อไปนี้ (อ้างอิงจาก เว็บไซต์สมาคมอธิการบดีแห่งประเทศไทย)

• GPAX (เกรดเฉลี่ยสะสม 6 เทอม) 20%
• O-NET 30%
• GAT 10-50%
• PAT 0-40%

ในส่วนของคะแนน GAT PAT ก็จะแล้วแต่คณะและมหาวิทยาลัยที่น้องๆจะเลือกครับ ซึ่งน้องๆจะเลือกได้ 4 อันดับครับ ซึ่งระบบ Admission กลาง จะเปิดรับในช่วงเดือน เมษายน ครับ

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง :
http://www.cuas.or.th (เว็บAdmissionกลาง)
http://www.niets.or.th/ (สทศ)

ระบบรับตรง

จริงๆพี่อยากแนะนำให้น้องสอบติดตั้งแต่รับตรงครับ (ยกเว้นแต่ว่าคณะที่น้องต้องการไม่เปิดรับตรงนะ) เพราะว่าการรับตรงนั้น ไม่ใช่มีแต่เพียงการสอบเท่านั้นนะครับ รับตรงนั้น ยังมีอีกหลายรูปแบบ เช่น

• มีความสามารถพิเศษ ก็สามารถเข้าได้เลย โดยไม่ต้องสอบ!  เช่น มีความสามารถพิเศษทางด้านกีฬา มีผลงานระดับประเทศ ผ่านการเข้าค่าย สอวน เป็นต้น ตรงนี้ถือว่าเป็นโชคดีของน้องมากๆครับ เพราะน้องๆก็จะไม่ต้องเครียดกับการอ่านหนังสือสอบ
• ทุนการศึกษา บางมหาวิทยาลัย มีการให้ทุนการศึกษา อาจจะเป็นการสอบ หรือเพียงแค่สัมภาษณ์ผู้ที่มีคุณสมบัติ ก็อาจจะได้รับเข้าศึกษาต่อ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเล่าเรียน
• สอบตรง อันนี้ก็คือการจัดสอบที่ทางมหาวิทยาลัยจัดขึ้นครับ ซึ่งวันเวลาสอบ แต่ละมหาวิทยาลัยจะเป็นผู้กำหนดเอง รวมถึงวิชาที่สอบเอย หรือ เกณฑ์คะแนนเอย ขึ้นอยู่กับทางมหาวิทยาลัยทั้งหมดครับ ซึ่งส่วนมากแล้วจะทำการสอบและประกาศผลก่อน Admission กลาง ทำให้น้องๆลดความเป็นกังวลเรื่องไม่มีที่เรียนไปได้บ้าง

โดยปกติแล้ว ถ้าน้องๆ สอบตรงติดและยืนยันสิทธิ์เรียบร้อยแล้ว เขาจะตัดสิทธิ์แอดกลางนะครับ แต่สามารถสอบตรงที่มหาวิทยาลัยอื่นได้ ไม่มีปัญหาครับ เราึจึงสามารถสอบตรงกี่ที่ก็ได้ แล้วแต่เราครับ

ดังนั้นแล้ว พี่จึงอยากให้น้องๆติดตามข่าวเกี่ยวกับคณะที่น้องชอบ หรือหาข้อมูลไว้ตั้งแต่เนิ่นๆครับ ว่า คณะที่เราอยากจะเข้าเนี่ย มีที่มหาวิทยาลัยไหนบ้าง มีเปิดรับตรงไหม ต้องใช้คะแนนอะไรบ้าง น้องๆจะได้มีเวลาเตรียมตัวที่ทันท่วงทีครับ อย่ามัวแต่ชะล่าใจนะครับ ว่ายังไม่ถึงเวลา การเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นๆนั้น จะสร้างความมั่นใจให้น้องได้ 10-20% เลยนะครับ

[DOC] เอกสารติว ทบทวนความรู้สู่มหาวิทยาลัยกับมาม่า ครั้งที่ 12

เอกสารติว ทบทวนความรู้สู่มหาวิทยาลัยกับมาม่า ครั้งที่ 12

RATING : 3/5

REVIEW : อันนี้ก็เป็นของติวมาม่านะครับ ซึ่งจะจัดติวตามภูมิภาคต่างๆช่วงเดือนตุลาคม ซึ่ง เอกสารมีค่อนข้างเยอะเหมือนกัน โดยส่้วนมากก็จะเน้นโจทย์มากกว่านะครับ และก็ไม่มีเฉลยอีกด้วย (ยกเว้นในบางวิชา) เอกสารพี่คิดว่า ตัวอักษรมันดูติดกันเกินไปจนไม่น่าอ่านเท่าไหร่ แต่โดยรวมแล้ว ถือว่าค่อนข้างโอเคครับ สำหรับน้องๆที่เน้นโจทย์ จัดเต็มเลย

DOWNLOAD : LINK

หมายเหตุ : สำหรับติวมาม่า ก็มีจัดทบทวนความรู้ออนไลน์ด้วยนะครับ ซึ่งพี่ว่าค่อนข้างดีทีเดียว แนะนำคือวิชา GAT ครับ สมัครได้ที่ link นี้เลยครับ (โหลดเอกสารจากในนั้นได้เลย)

[DOC] เอกสารติว BRAND SUMMER CAMP 2006-2010

เอกสารติว BRAND SUMMER CAMP 2006-2009

RATING : 4.5/5

REVIEW : เอกสารติวของ BRAND พี่ว่าดีที่สุดเท่าที่เคยเจอเลยครับ มีเนื้อหาครบถ้วนในทุกสาระวิชา มีแบบฝึกหัดพร้อมเฉลย อีกทั้ง การจัดเรียงหน้าของเอกสารทำได้อย่างสวยงาม น่าอ่าน แต่บางรายวิชาเช่นชีววิทยาก็มีจำนวนหน้าที่มากเกินไป ทำให้มีความลำบากเมื่อจะพิมพ์ออกมาอ่าน และเนื้อหาบางจุดก็ยังมีผิดพลาดบ้าง สำหรับ BRAND สามารถดูการติวย้อนหลังได้ที่เว็บด้วยนะครับ รวมถึงดาวน์โหลดเอกสารด้วย แต่พี่รวบรวมมาให้เรียบร้อยแล้ว

WEBSITE : http://www.brandssummercamp.com/

DOWNLOAD : 2006 | 2007 | 2008 | 2009 | 2010

Welcome to 4DEKAD

สวัสดีครับ สำหรับบล้อกนี้ พี่ก็จะรวบรวมประสบการณ์ในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในปี 2554 ทั้งของพี่เองและเพื่อนๆ มาให้น้องๆหรือผู้ที่สนใจได้นำไปปรับใช้ และเตรียมตัวเพื่อการสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่น้องๆต้องการครับ ซึ่งส่วนที่น่าสนใจก็จะมีดังนี้ครับ

• TIPS & TECHNIQUE : จะมีเทคนิคต่างๆที่พี่และเพื่อนๆของพี่ มาบอกเล่าให้ฟังกันครับ ทั้งการเตรียมตัวสอบ เทคนิคการทำข้อสอบในวิชาต่างๆ เป็นต้นครับ
• คลังข้อสอบ : ก็ตามชื่อเลยครับ พี่ก็จะนำข้อสอบต่างๆที่พี่รวบรวมมาได้ มาโพสให้น้องๆได้โหลดไปฝึกทำกันตามสบาย และจะมีพวกชีทติว และเอกสารที่ควรอ่านประกอบด้วยครับ
• เรื่องเล่าจากพี่ๆ : จะเป็นเรื่องราวการสอบเข้าของพี่และเพื่อนๆของพี่ครับ ซึ่งน้องคนไหนที่ความสนใจในคณะที่พวกพี่ได้เข้า ก็สามารถทำการสอบถามได้เลยนะครับ